โรงงานผลิตหมวก รับผลิตหมวกมากมายหลายแบบ

การใส่หมวกเป็นที่เรานิยม ใส่กันมานาน ไม่มาจะยุคไหน ๆ ก็มีหมวก แต่สมัยนี้ หมวกได้พัฒนาไปไกลไม่ว่าจะเป็นหมวกแบบไหน ทรงอะไรที่เราอยากใส่เราก็สามารถใส่ได้หมด โรงงานผลิตหมวก มีลักษณะหมวก รูปทรงของหมวกจะมีมากมายหลากหลายให้เลือกกัน โรงงานผลิตหมวก รับทำหมวกที่มากมาย ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งทำหมวกหรือจะให้รับทำหมวกเป็นจำนวนมาก ก็สามารถทำได้

โรงงานผลิตหมวก รับทำหมวก ราคาโรงงาน หมวกราคาส่ง และขายส่งให้กับลูกค้าทุกท่านที่ต้องการผลิตหมวกกับโรงงานผลิตหมวก ผ้าที่ใช้สำหรับทำหมวก โดย มีผ้าหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย cotton peat100% ผ้า Comb Twil และผ้าDY โดยผ้าแต่ละแบบนั้นก็มีหลากหลายสีให้ท่านเลือกเช่นกัน

สีหมวก
สีหมวก มีสีให้ เลือกได้หลากลาย มีสีหมวกคอยบริการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหมวกที่มีสีให้เลือกตามความต้องการ รับผลิตหมวกตามแบบ ตามสีที่ ชอบ โดย สามารถเลือกสีได้จากชาร์ทสีนี้ได้เลยค่ะ

เนื้อผ้าหมวก
เนื้อผ้า Cotton Peat เป็นเนื้อผ้าหมวกที่ ต้องการแนะนำ เพื่อให้สั่งผลิตหมวก เพราะเนื้อผ้านี้มีความสวยงาม นุ่ม เป็นทรง ทำหมวกออกมาแล้วดูดี เนื้อผ้า Cotton Peat ยังมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดีอีกด้วย เหมาะสำหรับทำเป็นหมวกพรีเมี่ยมแจกลูกค้า หรือ ทำเป็นของที่ระลึกก็ได้ หมวกที่ต้องการคุณภาพดี ผู้รับได้แล้วนำไปใช้ประโยชน์ ท่านต้องสั่งหมวก เนื้อผ้า Cotton peat ค่ะ แบบหมวกสวยถูกใจ

เนื้อผ้า Comb Twil เป็นเนื้อผ้าหมวกระดับกลาง เนื้อผ้ามีความเรียบสวยงาม แต่จะไม่ดีเท่ากับ เนื้อผ้า Cotton Peat ระบายอากาศได้ปานกลาง เหมาะสำหรับทำหมวกแจกลูกค้า หรือเป็นของที่ลระลึกได้ ท่านต้องสั่งหมวก เนื้อผ้า Comb Twil ค่ะ แบบหมวกสวยถูกใจ

เนื้อผ้า DY เป็นเนื้อผ้าที่ราคาถูกที่สุด ไม่นิยมในการสั่งผลิต ระบายอากาศได้ไมีดีเท่าที่คราว เหมาะกับงานที่ลูกค้าต้องการสั่งจำนวนมากๆ เพื่อใช้ในกิจกรรม เช่น กีฬาสี หรือกิจกรรมต่างๆ หากท่านต้องการสั่งหมวก เนื้อผ้า DY ค่ะ แบบหมวกสวยถูกใจ

8 ไอเดียธุรกิจใช้ทักษะสร้างรายได้ทำง่ายแม้อยู่ที่บ้าน

8 ไอเดียธุรกิจใช้ทักษะสร้างรายได้ทำง่ายแม้อยู่ที่บ้าน

ต่อไปนี้คือแนวคิดทางธุรกิจ 8 ประการที่ใช้ทักษะต่างๆ และสามารถทำได้ง่ายๆ จากที่บ้าน:

การเขียนอิสระหรือการสร้างเนื้อหา:
หากคุณมีทักษะการเขียนที่ดี คุณสามารถเสนอบริการเขียนแบบอิสระได้ สร้างเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ บล็อก หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คุณยังสามารถพิจารณาเริ่มต้นบล็อกของคุณเองและสร้างรายได้จากโฆษณาหรือเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

ความช่วยเหลือเสมือนจริง:
ใช้ทักษะการจัดองค์กรและการบริหารของคุณเพื่อให้บริการความช่วยเหลือเสมือนจริง เสนองานต่างๆ เช่น การจัดการอีเมล การจัดตารางนัดหมาย การเตรียมการเดินทาง การป้อนข้อมูล หรือการจัดการโซเชียลมีเดีย ให้กับมืออาชีพหรือผู้ประกอบการที่มีงานยุ่ง

การสอนออนไลน์:
หากคุณเก่งวิชาใดวิชาหนึ่งหรือมีประสบการณ์การสอน ลองพิจารณาเสนอบริการสอนพิเศษออนไลน์ คุณสามารถจัดให้มีการสอนพิเศษทางวิชาการ บทเรียนภาษา หรือการฝึกทักษะเฉพาะทางโดยใช้แพลตฟอร์มเช่น Skype หรือ Zoom

การออกแบบกราฟิก:
หากคุณมีทักษะการออกแบบและความเชี่ยวชาญในซอฟต์แวร์การออกแบบกราฟิก เสนอบริการของคุณในฐานะนักออกแบบกราฟิกอิสระ สร้างโลโก้ วัสดุสร้างแบรนด์ กราฟิกโซเชียลมีเดีย หรือการออกแบบเว็บไซต์สำหรับลูกค้า

งานฝีมือหรืองานศิลปะที่ทำด้วยมือ:
หากคุณมีทักษะด้านศิลปะ สร้างและขายงานฝีมือหรืองานศิลปะที่ทำด้วยมือ สามารถใช้แพลตฟอร์มเช่น Etsy หรือโซเชียลมีเดียเพื่อแสดงและขายผลิตภัณฑ์ของคุณได้ ซึ่งอาจรวมถึงสิ่งของต่างๆ เช่น เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ภาพวาด หรือของขวัญที่ออกแบบเอง

การฝึกสอนฟิตเนสหรือสุขภาพออนไลน์:
หากคุณมีความเชี่ยวชาญด้านฟิตเนส โภชนาการ หรือสุขภาพ ขอเสนอบริการฝึกสอนออนไลน์ พัฒนาแผนการออกกำลังกายส่วนบุคคล ให้คำแนะนำด้านอาหาร และให้คำปรึกษาเสมือนจริงหรือชั้นเรียนกลุ่ม

การจัดการโซเชียลมีเดีย:
หากคุณมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและการตลาด ให้เสนอบริการจัดการโซเชียลมีเดียแก่ธุรกิจต่างๆ ช่วยให้พวกเขาสร้างและใช้กลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มการแสดงตนและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์

การพัฒนาหรือการออกแบบเว็บ:
หากคุณมีทักษะการเขียนโค้ดและการออกแบบเว็บไซต์ เสนอบริการพัฒนาเว็บไซต์ สร้างและปรับแต่งเว็บไซต์สำหรับบุคคลหรือธุรกิจ คุณยังสามารถเชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มเฉพาะเช่น WordPress หรือ Shopify

อย่าลืมค้นคว้าและทำความเข้าใจตลาดเป้าหมายของคุณ กำหนดราคาที่แข่งขันได้ และทำการตลาดบริการของคุณอย่างมีประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และระบบเครือข่าย การสร้างสถานะออนไลน์ที่แข็งแกร่งและการส่งมอบงานคุณภาพสูงจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจที่บ้านของคุณ

การรักษาดวงตากับคลินิกตา เชียงรายเบื้องต้น

คลินิกตา เชียงรายมีจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์ ให้บริการดูแล ตรวจวินิจฉัยโรค และรักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา ตั้งแต่อาการทั่วไป จนไปถึงการรักษาดวงตาที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ด้วยการให้ยา เลเซอร์ และการผ่าตัด ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาที่ดี สามารถใช้ในการมองเห็นได้ดี นั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตก็จะดีไปด้วย

การตรวจตาทั่วไปของคลินิกตา เชียงรายโดยทั่วไปการตรวจตาจะต้องตรวจให้ละเอียดทั้งลักษณะโครงสร้าง และหน้าที่การทำงานของแต่ละส่วน ควรตรวจตาทั้ง 2 ข้าง บางครั้งเราอาจพบความผิดปกติบางอย่างโดยที่ผู้ป่วยยังไม่มีอาการ หรือผู้ป่วยไม่ทราบว่ามีอาการผิดปกติ การตรวจตาต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย ควรสร้างสัมพันธ์และบรรยากาศในการตรวจให้ผู้ป่วยร่วมมือมากที่สุด เพื่อการตรวจจะได้ผลดีและไม่เสียเวลามาก ในเด็กเล็กบางครั้งจะต้องใช้ยานอนหลับจึงจะตรวจได้

การตรวจตาควรทำเป็นลำดับขั้นตอน ดังนี้

1.การวัดระดับสายตา (Visual acuity) การวัดระดับสายตา VA เป็นสิ่งแรกที่ต้องตรวจและจำเป็นมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยอุบัติเหตุและผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้สายตาเป็นพิเศษ การวัดระดับสายตา Visual acuity หรือที่เรียกว่า VA มีความจำเป็นเท่ากับการวัด Vital sign หรือสัญญาชีพในผู้ป่วย

2.การวัดความดันตา (Auto Tension) ความดันตาปกติมีค่าประมาณ <21 มม.ปรอท (mmHg) การวัดความดันตามีความสำคัญเท่ากับการวัดความดันโลหิต

3.การตรวจการมองเห็นสี (Color vision test) การตรวจการมองเห็นสีมีหลายวิธี วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือ Ishihara psendoiso chromatic color plate จะมีภาพเป็นตัวเลขสีต่างๆ ประมาณ 20 ภาพ ถ้าสามารถอ่านตัวเลขถูกต้องทุกภาพ แสดงว่าการมองเห็นสีเป็นปกติ ถ้าอ่านผิดแสดงว่ามีความผิดปกติในการมองเห็นสี จะมีตารางบอกไว้ว่าผิดปกติระดับใด การทดสอบการเห็นสีมีความสำคัญในแง่การคัดเลือกคนเข้าทำงาน เกี่ยวข้องกับการแยกแยะสี เช่น โรงงานอุตสาหกรรมบางอย่าง นักเคมี ทหาร ตำรวจ

4.การตรวจพิเศษทางจักษุ (Special Investigation) การตรวจทางคลินิกตา เชียงราย นอกจากจะตรวจโดยใช้เครื่องมือพื้นฐานแล้ว บางครั้งอาจมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อช่วยในการวินิจฉัย การวางแผนรักษา และบอกการพยากรณ์โรคแก่ผู้ป่วย การตรวจพิเศษทางจักษุ ได้แก่

  • การวัดลานสายตา (Visual Field) เป็นการตรวจการทำงานของจอประสาทตา เส้นประสาทตา และ Visual pathway ส่วนที่อยู่ในสมอง การวัดลานสายตาอาจช่วยบอกตำแหน่งของพยาธิสภาพ และการใช้ในการติดตามผู้ป่วยบางโรค เช่น ต้อหิน
  • การถ่ายภาพจอประสาทตา (Fundus Camera) การถ่ายรุป Fundus เพื่อการติดตามโรค และผลการรักษา ที่ใช้บ่อยที่สุดคือการติดตามโรคต้อหินเพื่อดูความหนาของเส้นใยจอประสาทตา (N)เนื่องจากโรคนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นที่จอประสาทตา ใช้ติดตามผู้ป่วยโรคจอประสาทตา เช่น Diabetic retinopathy และโรคของ macula บางชนิด ในปัจจุบันเราสามารถถ่ายภาพ Fundus ด้วยกล้อง (Non-Mydriatric-Fundus Camara) ใช้แสงน้อยกว่า ผู้ป่วยรู้สึกสบายตากว่า และยังสามารถถ่ายภาพ 3 มิติได้ด้วย

ไอเดียม้วนผมลอนสวยในสระ ข้อควรรู้ ก่อนม้วนผม และดูแลลอนผม

ไอเดียม้วนผมลอนสวยในสระ ข้อควรรู้ ก่อนม้วนผม และดูแลลอนผม

การม้วนผมในสระอาจเป็นวิธีที่สนุกและไม่เหมือนใครเพื่อให้ได้ลอนผมที่สวยงาม ต่อไปนี้คือแนวคิดและเคล็ดลับที่ควรคำนึงถึงก่อนม้วนผมในสระและดูแลลอนผมหลังจากนั้น:

ก่อนดัดผม:

เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม: ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเส้นผมของคุณจากคลอรีนและน้ำเกลือ ซึ่งสามารถทำลายเส้นผมและทำให้ม้วนงอได้ยาก มองหาผลิตภัณฑ์อย่างครีมนวดผมและน้ำมันใส่ผมที่สามารถให้การปกป้องและให้ความชุ่มชื้น

ทำให้ผมเปียก: ทำให้ผมเปียกก่อนลงสระ เพราะจะช่วยป้องกันความเสียหายจากคลอรีนและน้ำเค็ม

ใช้หวีซี่ห่าง: ใช้หวีซี่ห่างหวีผมก่อนลงสระ วิธีนี้จะช่วยป้องกันปมและพันกันที่ทำให้ผมม้วนงอได้ยากในภายหลัง

ม้วนผมของคุณ:

ใช้ที่ม้วนผมหรือแกนม้วนผม: ใช้ที่ม้วนผมหรือแกนม้วนผมเป็นลอนเล็กๆ เริ่มที่โคนผมแล้วไล่ลงมาจนถึงปลายผม จับที่ม้วนผมให้อยู่กับที่สักสองสามวินาทีก่อนปล่อย

ใช้อุปกรณ์ป้องกันความร้อน: ใช้สเปรย์หรือครีมป้องกันความร้อนก่อนม้วนผมเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนและช่วยให้ลอนผมอยู่ได้นานขึ้น

ใช้กิ๊บติดผม: หลังจากม้วนผมแต่ละส่วนแล้ว ให้หนีบผมขึ้นและปล่อยออกเพื่อให้เย็นและเซ็ตตัว วิธีนี้จะช่วยให้ลอนผมอยู่ทรงได้นานขึ้นและป้องกันไม่ให้หลุดร่วง

หลังจากดัดผม:

หลีกเลี่ยงการสัมผัสลอนผม: หลีกเลี่ยงการสัมผัสลอนผมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผมชี้ฟูหรือหลุดร่วงได้

ใช้สเปรย์ฉีดผม: ใช้สเปรย์ฉีดผมที่มีน้ำหนักเบาเพื่อเซ็ตลอนผมและช่วยให้ผมอยู่ทรงนานขึ้น

ทำให้เส้นผมชุ่มชื้น: ใช้ครีมนวดผมหรือน้ำมันใส่ผมเพื่อให้ผมชุ่มชื้นและป้องกันความเสียหายจากคลอรีนและน้ำเค็ม

เมื่อทำตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถม้วนผมในสระและคงลอนผมสวยไว้ได้ในภายหลัง

เทคนิคการดัดด้วยไฟฟ้าและรูปทรงที่ต้องการ

เทคนิคการดัดด้วยไฟฟ้าและรูปทรงที่ต้องการ

การดัดด้วยไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่กระแสไฟฟ้าถูกส่งผ่านวัสดุนำไฟฟ้าเพื่อให้ความร้อนขึ้น ซึ่งทำให้อ่อนและบิดงอได้ เทคนิคนี้มักใช้ในอุตสาหกรรมโลหะและอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างรูปทรงและการออกแบบที่ซับซ้อน

รูปร่างที่ต้องการในการดัดด้วยไฟฟ้ามักถูกกำหนดโดยข้อกำหนดการออกแบบหรือข้อกำหนดของโครงการ ซึ่งอาจรวมถึงความโค้ง มุม หรือรูปร่างเฉพาะที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการทำงานหรือความสวยงามของโครงการ

เพื่อให้ได้รูปร่างที่ต้องการในการดัดด้วยไฟฟ้า วัสดุนำไฟฟ้าจะถูกให้ความร้อนที่อุณหภูมิเฉพาะ จากนั้นดัดหรือขึ้นรูปโดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ สามารถควบคุมอุณหภูมิและระยะเวลาของกระบวนการให้ความร้อนอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุจะโค้งงอตามรูปร่างที่ต้องการโดยไม่เสียหายหรือผิดรูป

โดยรวมแล้ว การดัดด้วยไฟฟ้าเป็นเทคนิคอเนกประสงค์และมีประสิทธิภาพในการสร้างรูปทรงและการออกแบบที่ซับซ้อนในวัสดุหลากหลายประเภท และสามารถใช้เพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการที่หลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของโครงการ

เทคนิคการดัดดิจิตอลและทรงแบบไหนที่นิยม

เทคนิคการดัดดิจิตอลและทรงแบบไหนที่นิยม

ต่อไปนี้คือตัวอย่างบทความเกี่ยวกับเทคนิคและแนวโน้มการออกแบบดิจิทัลยอดนิยมเป็นภาษาอังกฤษ:

เทคนิคและเทรนด์การออกแบบดิจิทัลยอดนิยม

การออกแบบดิจิทัลเป็นสาขาที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเทคนิคและเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความเข้าใจในหลักการออกแบบของเราลึกซึ้งยิ่งขึ้น นักออกแบบจึงต้องติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดในสาขานี้ ต่อไปนี้คือเทคนิคและเทรนด์การออกแบบดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้:

มินิมอล: น้อยแต่มาก
ความเรียบง่ายเป็นเทรนด์การออกแบบที่ได้รับความนิยมมาสองสามปีแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง แนวคิดพื้นฐานเบื้องหลังความเรียบง่ายคือการตัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกและเน้นที่ข้อความหลัก ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้ตัวพิมพ์ที่เรียบง่าย พื้นที่เชิงลบ และจานสีที่จำกัด นักออกแบบสามารถสร้างการออกแบบที่สะอาด ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ

วิชาการพิมพ์ตัวหนา: สร้างคำชี้แจง
การพิมพ์ตัวหนาเป็นเทคนิคการออกแบบที่ทรงพลังซึ่งสามารถใช้เพื่อสร้างข้อความหรือถ่ายทอดข้อความ นักออกแบบสามารถดึงความสนใจไปที่องค์ประกอบหลักของการออกแบบและสร้างลำดับชั้นภาพที่แข็งแกร่งได้ด้วยการใช้ตัวพิมพ์ขนาดใหญ่และหนา เทคนิคนี้อาจมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบเว็บ ซึ่งผู้ใช้มักจะสแกนเนื้อหาอย่างรวดเร็ว

ดูโอโทน: เพิ่มสีและความลึก
ดูโทนเป็นเทคนิคยอดนิยมในการเพิ่มสีสันและความลึกให้กับงานออกแบบ เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการใช้สองสีเพื่อสร้างภาพเดียว โดยมักจะมีเอฟเฟกต์การไล่ระดับสี สามารถใช้ดูโอโทนเพื่อสร้างการออกแบบที่โดดเด่นสะดุดตาซึ่งโดดเด่นกว่าใคร นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อสร้างรูปลักษณ์และความรู้สึกที่สอดคล้องกันในการออกแบบต่างๆ

การไล่ระดับสี: เพิ่มความลึกและพื้นผิว
การไล่ระดับสีเป็นเทคนิคการออกแบบที่หลากหลายซึ่งสามารถใช้เพื่อเพิ่มความลึกและพื้นผิวให้กับการออกแบบ การไล่ระดับสีเกี่ยวข้องกับการผสมสีตั้งแต่สองสีขึ้นไปเข้าด้วยกัน มักจะเป็นรูปแบบเส้นตรงหรือรัศมี เทคนิคนี้สามารถใช้เพื่อสร้างความลึก เน้นองค์ประกอบสำคัญ หรือเพียงแค่เพิ่มความน่าสนใจให้กับงานออกแบบ

ภาพประกอบสามมิติ: เพิ่มมิติใหม่
ภาพประกอบสามมิติเป็นเทคนิคในการสร้างภาพ 3 มิติโดยใช้กราฟิก 2 มิติ เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการวาดวัตถุจากมุมมองเฉพาะ โดยใช้เส้นที่ขนานกัน สามารถใช้ภาพประกอบสามมิติเพื่อสร้างงานออกแบบที่สะดุดตาและมีรูปลักษณ์และความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร

เพิ่มความเป็นจริง: ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้
เทคโนโลยีความจริงเสริมเป็นเทรนด์ที่ค่อนข้างใหม่ในการออกแบบดิจิทัล แต่เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีซ้อนภาพดิจิทัลในโลกแห่งความเป็นจริง สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไม่เหมือนใครและน่าดื่มด่ำ สามารถใช้ความเป็นจริงเสริมเพื่อสร้างการออกแบบเชิงโต้ตอบที่ดึงดูดผู้ใช้ด้วยวิธีใหม่และน่าตื่นเต้น

โดยสรุปแล้ว การออกแบบดิจิทัลเป็นสาขาที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และนักออกแบบจำเป็นต้องติดตามเทคนิคและเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอเพื่อสร้างงานออกแบบที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะใช้ศิลปะแบบมินิมัลลิสต์ การพิมพ์ตัวหนา ดูโอโทน การไล่ระดับสี ภาพประกอบสามมิติ หรือความเป็นจริงเสริม กุญแจสำคัญคือการใช้เทคนิคเหล่านี้ในวิธีที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้และสื่อสารข้อความของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อนาคตของสันติภาพ – จะเป็นอย่างไร

อนาคตของสันติภาพ – จะเป็นอย่างไร

อนาคตของสันติภาพเป็นหัวข้อที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ รวมถึงประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายได้อย่างแน่นอนว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ก็มีแนวโน้มและการพัฒนาหลายอย่างที่อาจกำหนดอนาคตของสันติภาพ

แนวโน้มสำคัญประการหนึ่งคือความเชื่อมโยงระหว่างกันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการสื่อสารทำให้ผู้คนจากประเทศต่างๆ และวัฒนธรรมต่างๆ สามารถเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ง่ายกว่าที่เคย ปฏิสัมพันธ์และความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถช่วยลดอุปสรรคและส่งเสริมสันติภาพได้

แนวโน้มอีกประการหนึ่งคือการรับรู้ถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจะต้องดำเนินการในแนวทางที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม การตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างกันของปัญหาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมสามารถช่วยส่งเสริมโลกที่สงบสุขและยั่งยืนมากขึ้น

แม้จะมีแนวโน้มเหล่านี้ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่อาจขัดขวางความสำเร็จของสันติภาพในอนาคต ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความไม่มั่นคงทางการเมือง ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ และความแตกแยกทางสังคมเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของความท้าทายที่อาจจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเพื่อสร้างโลกที่สงบสุขยิ่งขึ้น

โดยรวมแล้ว อนาคตของสันติภาพจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงการกระทำของบุคคล รัฐบาล และองค์กรต่างๆ ทั่วโลก การส่งเสริมความเข้าใจ ความยั่งยืน และความร่วมมือ อาจเป็นไปได้ที่จะสร้างอนาคตที่สงบสุขและปรองดองกันมากขึ้นสำหรับทุกคน

ควรเลือกฉีดโบท็อก อุดร ที่ไหนดีเพื่อความปลอดภัย

ในยุคที่ความรูปร่างหน้าตาและความสวยงามถูกให้ค่า ศัลยกรรมเสริมสวยจึงได้รับความนิยมขึ้นมากจนไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหน ล้วนก็มองเห็นแต่ คลินิกและร้านเสริมแต่งความงามเต็มไปหมด และ 1 ใน หลายๆ กรรมวิธีที่เราคุ้นหูเป็นอย่างดี นั้นก็คงหนีไม่พ้นฉีดโบท็อก อุดร ที่ไหนดีที่เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่ไม่ใครไม่รู้จัก แต่ที่เราคิดว่าเรารู้จักโบท็อกแล้วนั้นจริงๆ แล้ว อาจยังมีอีกหลายข้อที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้

โบท็อกใช้รักษาอะไรได้บ้าง ในช่วงแรกโบท็อกถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาทางตา เช่น ตาเหล่ (Strabismus) หรือหนังตากระตุก (Blepharospasm) แล้วพบว่า ทำให้ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดลดลง ปัจจุบันจึงได้ใช้โบท็อกเพื่อประโยชน์ทางด้านการเสริมความงาม และด้านอื่นๆ ได้แก่

  • ใช้รักษาเรื่องริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหว หรือการแสดงอารมณ์ เช่น บริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, หางตา,รอบปาก
  • นำไปใช้ช่วยลดกราม (ลดหน้าเหลี่ยม) ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น
  • ใช้ช่วยลดขนาดของเนื้อน่อง ทำให้น่องเรียว
  • ใช้ช่วยลดอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดไมเกรน ปวดหลัง รวมถึงช่วยลดเหงื่อที่ผิวหนัง เช่นบริเวณรักแร้ และฝ่ามือ

นอกจากการฉีดโบท็อกเข้าไปที่กล้ามเนื้อแล้ว ยังมีเทคนิคการฉีดโบท็อกที่เรียกว่า Microbotox  technique เป็นการฉีดโบท็อก เข้าที่ผิวหนัง จะช่วยให้ผิวหนังตึงกระชับ ผิวที่หย่อยคล้อยดูยกขึ้น รูขุมขนเล็กลง และลดความมันของใบหน้าด้วย ทั้งนี้ การออกฤทธิ์ของโบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 2-3 วัน ออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อประมาณ 7-14  วัน และฤทธิ์ของโบท็อกจะค่อย ๆ สูญสลายไปในระยะเวลา 4-6 เดือน

ฉีดโบท็อก อุดร ที่ไหนดีอันตรายหรือไม่ จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก ในต่างประเทศ พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม ทั้งนี้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดโบท็อกได้แก่

  • บวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด
  • แพ้เห่อแดง ที่ผิวหนัง
  • หน้าแข็งตึง รู้สึกว่าไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ สาเหตุเกิดจากปริมาณโบท็อกที่ฉีดเข้าไปไม่เหมาะสม
  • หางคิ้วกระดก เทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง อาจทำให้คิ้วเลิกสูงขึ้น รวมทั้งยังอาจทำให้เกิดรอยย่นขึ้นที่ด้านข้างของคิ้วเพิ่มขึ้นได้ด้วย
  • หนังตาตก เนื่องจากกล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ซึ่งเป็นเพียงแค่ชั่วคราว

ทั้งนี้ ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก หน้าไม่สมมาตรหรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด  ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์ และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง

เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร ดังที่ได้กล่าวแล้วตอนต้นว่าผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ และค่อยๆ รอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้ ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนไปฉีด Botox การฉีดโบท็อก อุดร ที่ไหนดีก็เปรียบเหมือนการเข้ารับการรักษาโรคอื่นๆ โดยทั่วไป ดังนั้น การเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังฉีดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ต้องการรักษาควรรู้ ดังนี้

ก่อนฉีด Botox

  • หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามิน A, AHA, สครับหน้า, ขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนการฉีดโบท็อก
  • หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
  • งดแอลกอฮอลล์ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
  • ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา

หลังฉีด Botox

  • อย่านวด กด หรือกระทำอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือ นวดหน้า
  • อย่านอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
  • งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือการเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการรักษา
  • งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการรักษา
  • พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
  • สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
  • สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวลหลีกเลี่ยงการกดถู
  • ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดใน 2 สัปดาห์
  • กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ

ทั้งนี้แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินการรักษาและข้อสำคัญควรเลือกฉีดโบท็อก อุดร ที่ไหนดีใช้บริการกับคลินิกโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และทำการรักษากับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

เทคนิคการดัดดิจิตอลและทรงแบบไหนที่นิยม

สาว ๆ คนไหนที่อยากปรับลุคใหม่และกำลังเบื่อกับทรงผมแบบเดิม ๆ การดัดดิจิตอลก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียทรงผมที่น่าสนใจทีเดียว โดยผมทรงนี้จะมาในสไตล์ลอนผมดัดที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะทั้งสาวสายฝ. และเป็นสาวสไตล์ญี่ปุ่น เทรนด์การดัดผม ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือสาววัยกลางคน เพราะเป็นทรงผมที่สามารถสร้างลอนผมและช่วยเพิ่มความสวยงามได้หลากหลายสไตล์ โดยจะเป็นการใช้น้ำยาสำหรับดัดเพื่อปรับโครงสร้างเส้นผมให้เป็นลอนตามความต้องการ อีกทั้งยังสามารถออกแบบลอนผมให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่างผมที่มีความเชี่ยวชาญจะมีเทคนิคการสร้างวอลลุ่มให้กับผมในหลากหลายวิธี และช่วยให้รับกับใบหน้าของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งในปัจจุบันการดัดดิจิตอลและแบบดั้งเดิมจะมีข้อดีและวิธีการทำที่แตกต่างกันดังนี้

เทคนิคการดัดผมแบบธรรมดา เป็นรูปแบบการดัดผมโดยการใช้น้ำยาสำหรับการดัดผมโดยเฉพาะ ซึ่งน้ำยาตัวนี้สามารถทำการดัดเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างผมให้เป็นลอนตามรูปแบบตัวดัดในอุณหภูมิปกติได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนช่วยในการดัด หรือหลายคนเรียกว่าการดัดผมแบบเย็น

สำหรับข้อดีของการดัดผมแบบธรรมดาคือ สามารถกำหนดรูปแบบลอนผมที่ต้องการได้ตามขนาดของแกนที่ทำการดัด ซึ่งแกนผมส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเบา จึงทำให้ไม่หนักหัวเมื่อรอเวลาดัด เป็นรูปแบบการดัดที่เหมาะสำหรับคนผมน้อยที่ต้องการดัดเพื่อเพิ่มวอลลุ่มความหนาให้กับผมได้

เทคนิคการดัดดิจิตอลเป็นรูปแบบการดัดผมยอดนิยม มีรูปแบบการดัดที่แตกต่างจากแบบธรรมดาคือ จะมีการนำความร้อนเข้ามาช่วยในการดัด โดยจะใช้น้ำยาดัดแบบร้อนและแกนดัดผมไฟฟ้าที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอล ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิความร้อนและกระตุ้นการทำงานของน้ำยาดัดให้อยู่ประมาณ 120 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อให้การดัดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ลอนผมสวยตามต้องการ

สำหรับข้อดีของการดัดดิจิตอล คือ จะได้ลอนผมที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีลอนขนาดสม่ำเสมอ เป็นลอนสวยดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งลอนนี้สามารถอยู่ได้นาน ไม่จำเป็นต้องเซตผมด้วยมูสหรือเจลเซตผม ทรงผมก็สามารถอยู่ทรงได้ตามต้องการ เป็นรูปแบบการดัดผมที่เหมาะกับคนที่มีเส้นผมบอบบาง อีกทั้งยังเป็นการดัดผมที่ทำให้ผมเสียน้อยอีกด้วย

สำหรับคนที่สนใจรูปแบบการดัดดิจิตอลควรเลือกใช้น้ำยาดัดผมที่มีคุณภาพ รวมถึงมีอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับทำลอนที่มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน แต่สาว ๆ คนไหนสงสัยว่า รูปแบบทรงผมที่ดัดด้วยวิธีดิจิตอลแบบนี้จะสามารถทำทรงไหนได้บ้าง ลองไปเช็กสไตล์ลอนผมที่ชอบกันได้เลย

  • C Curl : เป็นรูปแบบลอนผมรูปตัว C ที่มีการดัดลอนให้โค้งมนตรงบริเวณปลายผม หรือที่เรียกว่าดัดงุ้มปลาย ใกล้เคียงกับผมแบบหยักศก มีความเป็นลอนขึ้นมาอีกระดับ เหมาะสำหรับคนผมสั้นประบ่า จะช่วยเพิ่มลุคให้ดูหน้าเด็กในสไตล์เกาหลีได้อีกด้วย
  • J Curl : เป็นลอนผมในรูปตัว J ซึ่งจะมีความเป็นธรรมชาติ มีลักษณะที่บางเบา ช่วยจัดแต่งทรงผมให้เป็นทรงได้ง่าย ได้ลุคสาวสไตล์หวาน ๆ เหมาะสำหรับคนที่มีเส้นผมยาวที่ต้องการให้ปลายผมดูมีน้ำหนัก เพราะโดยปกติยิ่งผมยาวมากเท่าไหร่ ปลายผมจะยิ่งดูบางมากขึ้น
  • S Curl : เป็นรูปแบบลอนผมรูปตัว S โดยจะเป็นการดัดลอนที่มีความชัดเจนมากที่สุด จึงสามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มความหนาให้กับเส้นผมได้เป็นอย่างดี ใครที่เป็นสาวสายฝ. ต้องถูกใจลุคนี้

บทบาทสำคัญของการทำประกันอัคคีภัย

ประกันอัคคีภัยมีบทบาทสำคัญในการช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างการเกิดไฟไหม้บ้าน แทนที่เราจะต้องมารับความเสี่ยงไว้เอง ก็โอนความเสี่ยงภัยไปให้กับประกันภัยแทน แต่ก่อนที่จะทำประกันไฟไหม้บ้าน หรือประกันอัคคีภัยบ้านมี 4 ข้อที่คุณควรรู้

  1. ทำประกันไฟไหม้บ้านหรือประกันอัคคีภัยให้ครอบคลุมมูลค่าบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน ทำประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ประกันไฟไหม้บ้าน ควรทำให้ครอบคลุมมูลค่าบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน แต่ไม่ควรทำประกันเกินมูลค่าบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เพราะหลักการจ่ายค่าสินไหมทดแทน จะจ่ายให้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินที่ได้ทำประกันไว้ สมมติว่า ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน มูลค่า 2,000,000 บาท แบ่งเป็นที่ดิน 1,000,000 บาท และบ้าน 1,000,000 บาท

ดังนั้น ทุนประกันอัคคีภัยที่ครอบคลุมมูลค่าบ้าน เท่ากับ 1,000,000 บาท แต่ความคุ้มครองนี้ยังไม่ครอบคลุมกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน หากเกิดความเสียหายเฉพาะเฟอร์นิเจอร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถแจ้งให้คุ้มครองเพิ่มในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ได้ เช่น

– ทุนประกันบ้าน 1,000,000 บาท

– ทุนประกันเฟอร์นิเจอร์ 500,000 บาท

– รวม 1,500,000 บาท

บางกรณีผู้เอาประกันภัยมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน คิดว่าบริษัทประกันภัยรับประกันด้วยทุนประกันที่ต่ำกว่าความเป็นจริง จึงได้ไปทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทอื่นเพิ่มอีก 1 แห่ง รวมเป็น 2 แห่ง

จากตัวอย่างเดิม ผู้เอาประกันได้ทำประกันกับบริษัท A ทุนประกัน 1,000,000 บาท และได้ไปทำประกันกับบริษัท B เพิ่มอีก 1,000,000 บาท มีทุนประกันรวม 2,000,000 บาท

หากเกิดอัคคีภัยประเมินความเสียหายได้ 800,000 บาท กรณีนี้บริษัท A และบริษัท B จ่ายค่าสินไหมทดแทนรวมกันไม่เกิน 800,000 บาท ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินเท่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่บริษัทละ 800,000 บาท อีกทั้ง ทำให้ผู้เอาประกันอัคคีภัยเสียเบี้ยประกันภัยโดยเปล่าประโยชน์

  1. ไม่ควรทำประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน เป็นข้อยกเว้นเฉพาะประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยเท่านั้น จากตัวอย่างข้างต้น หากผู้เอาประกันไม่ประสงค์ทำเต็มมูลค่าทรัพย์สิน แต่ควรทำทุนประกันไม่ต่ำกว่า 700,000 บาท หรือ 70% ตามหลักเกณฑ์การประกันอัคคีภัย เพราะหากเกิดอัคคีภัยเสียหายทั้งหมด ประกันไฟไหม้บ้านจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามทุนประกันที่ได้ทำไว้คือ 700,000 บาท

แต่หากผู้เอาประกันทำประกันอัคคีภัยทุนประกันต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน เช่น ต้องการทุนประกันเพียง 600,000 บาท คิดเป็น 60% ต่อมาเกิดอัคคีภัยเสียหายบางส่วน ประเมินความเสียหาย 300,000 บาท ดังนั้น ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเพียง 180,000 บาท (300,000 X 60%) ตามหลักเกณฑ์ถือว่าผู้เอาประกันภัยรับความเสี่ยงบางส่วนไว้เอง

  1. ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ถ้าผู้เอาประกันภัยพิจารณาแล้วว่าความคุ้มครองปกติที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ ความคุ้มครองที่มักจะซื้อเพิ่มเติม ได้แก่ ภัยโจรกรรม ภัยน้ำท่วม เป็นต้น

การซื้อความคุ้มครองเพิ่มจากประกันอัคคีภัยบ้าน สิ่งที่ตามมาก็คือมีค่าเบี้ยประกันส่วนเพิ่มนั่นเอง ถ้าผู้เอาประกันภัยต้องการซื้อความคุ้มครองจากภัยน้ำท่วมเพิ่มเติม แต่พื้นที่นั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ บริษัทประกันอาจพิจารณาไม่รับประกันภัยส่วนเพิ่มนี้ได้ หรือถ้ารับประกันอาจพิจารณาเพิ่มเบี้ยประกันในอัตราที่สูงกว่าปกติได้

สำหรับภัยที่ซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น ภัยลมพายุ ภัยจากลูกเห็บ ภัยจากควัน ภัยจากแผ่นดินไหว ภัยจลาจลและนัดหยุดงาน ภัยเนื่องจากป่าเถื่อนและการกระทำด้วยเจตนาร้าย ภัยระอุ ภัยระอุมีการลุกไหม้/ระเบิด ภัยต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า

4. เลือกระยะเวลาคุ้มครองยาว แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยทำประกันอัคคีภัยระยะเวลา 3 ปี เพื่อที่จะได้รับประโยขน์จากอัตราค่าเบี้ยประกันที่ลดลง ผู้เอาประกันเลือกทำประกันอัคคีภัยระยะเวลา 1 ปี เสียค่าเบี้ยประกันปีละ 1,100 บาท หากทำแบบต่ออายุปีต่อปี เมื่อระยะเวลาผ่านไป 3 ปี เสียค่าเบี้ยประกัน 3,300 บาท แต่ถ้าตัดสินใจเลือกระยะเวลาคุ้มครอง 3 ปี (ทำระยะยาว) เสียค่าเบี้ยประกัน 2,750 บาท เท่ากับประหยัดได้ 550 บาทต่อ 3 ปี หรือเฉลี่ยต่อปี เท่ากับ 183 บาท คิดเป็น 16.7% ต่อปี แต่หากผู้เอาประกันภัยพิจารณาแล้วเห็นว่าการเลือกระยะเวลาคุ้มครองยาวเป็นภาระทางการเงินมากเกินไป ก็อาจพิจารณาเลือกทำประกันภัยระยะเวลา 1 ปีแทนได้ https://www.tipinsure.com/Fire/fire_step_1/tip_home